5 ดอกไม้ที่นิยมนำมาใช้ทำชา

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในยุคนี้คนหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น ซึ่งนอกจากการออกกำลังกายและเลือกทานอาหารคลีนแล้ว การเลือกทานเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ก็เป็นอีกเทรนด์ที่คนเริ่มหันมาให้ความสนใจ วันนี้จึงลินีมีดอกไม้ที่คนนิยมนำไปทำชา มาฝากกันทั้งหมด 5 ชนิดค่าา
คาโมบายล์
1.ดอกคาโมมายล์
  มาเริ่มที่ดอกไม้ชนิดแรกกันเลยค่า นั่นก็คือ ดอกคาโมมายล์ ซึ่งถูกใช้เป็นสมุนไพรมานานนับพันปี โดยชาวโรมันมักใช้ดอกคาโมมายล์ในการเพิ่มรสชาติให้กับเครื่องดื่ม และเป็นสมุนไพรเพื่อรักษาโรคต่างๆ เพราะมีสรรพคุณมากมาย เช่น ลดอาการเคืองของทางเดินอาหาร ลดการปวดท้องเกร็ง ลดการปวดประจำเดือน และยังช่วยต้านการอักเสบในช่องปาก คอ ผิวหนัง อีกด้วย แต่อีกจุดเด่นสำคัญของดอกคาโมมายล์ คือ ไม่มีคาเฟอีน ทำให้ไม่มีสารกระตุ้นใดๆในขณะที่กำลังนอนหลับ ช่วยสร้างความผ่อนคลาย นอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น หลายคนจึงนำมาใช้ทำชาคาโมมายล์และนิยมดื่มกันในตอนก่อนนอนนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ดอกคาโมมายล์ยังนิยมใช้ในการผลิตน้ำมันหอมระเหยและโลชั่นจากดอกคาโมมายล์อีกด้วย
หอมหมื่นลี้
2.ดอกหอมหมื่นลี้
   ดอกไม้ชนิดต่อมา คือดอกหอมหมื่นลี้ ซึ่งไม่ใช่ดอกไม้ที่สวยแค่ชื่อ แต่ยังเป็นดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ของชาวจีนและชาวญี่ปุ่น เพราะมีความเชื่อว่า การนั่งคุกเข่าสูดดมกลิ่นหอมใต้ต้นหอมหมื่นนั้น เปรียบเหมือนได้คาราวะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และดอกหอมหมื่นลี้ไม่เพียงแต่เป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมเป็นจุดเด่น แต่ด้วยคุณประโยชน์ของดอกหอมหมื่นลี้ ทำให้สามารถนำมาใช้ทำเป็นชา ปรุงอาหาร ปรุงไวน์ รวมถึงสกัดเป็นหัวน้ำหอมที่มีราคาแพง เพราะมีสารหอมอยู่หลายชนิด และถูกนำไปใช้ในน้ำหอมชั้นสูงหรืออุตสาหกรรมอาหารด้วย  อีกทั้งยังนิยมใช้เป็นยารักษาโรค เนื่องจากมีสรรพคุณที่หลากหลาย เช่น บำรุงผิวพรรณ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งเซลล์มะเร็ง ลดไขมันในเส้นเลือด บำรุงปอด และยังช่วยป้องกันในเรื่องของกลิ่นปากและฟันผุ ที่สำคัญหากนำดอกหอมหมื่นลี้มาทำเป็นชาแล้วผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น เช่น ดอกมะลิ ใบสะระแหน่ จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลร่างกาย ฟื้นฟูร่างกายจากอาการป่วย ช่วยทำให้ชุ่มคอ สามารถดักจับไขมันในร่างกายและช่วยในการลดน้ำหนักได้อีกด้วย
ลาเวนเดอร์
3.ดอกลาเวนเดอร์
 มาถึงดอกไม้ที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ทั้งเรื่องของสีและความหอม นั่นคือ  ดอกลาเวนเดอร์ เป็นดอกไม้เมืองหนาวที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ช่วยสร้างความผ่อนคลายให้กับอารมณ์ และแก้อาการปวดหัวได้ จึงนิยมนำดอกลาเวนเดอร์ไปทำเครื่องหอม หรือสกัดเป็นน้ำมันหอมต่างๆ เนื่องจากน้ำมันดอกลาเวนเดอร์มีประโยชน์เป็นอย่างมาก สามารถบรรเทาอาการบวม แสบ คัน จากแมลงสัตว์กัดต่อย ช่วยลดริ้วรอย และนำไปใช้ทาผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นหรือนวดตัวเพื่อช่วยสลายไขมันได้  แต่จริงๆแล้วดอกลาเวนเดอร์แห้งนั้นยังสามารถนำไปทำเป็นชาได้เช่นกัน โดยส่วนใหญ่ดอกลาเวนเดอร์ที่นิยมนำมาใช้ทำชา คือดอกลาเวนเดอร์สายพันธุ์อังกฤษ ที่มีสรรพคุณ ช่วยลดอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย ยิ่งดื่มหลังอาหารจะทำให้รู้สึกสบายท้อง ดื่มร้อนๆจะช่วยลดกลิ่นตัวและกลิ่นสาบ หากดื่มก่อนนอนจะช่วยให้นอนหลับสบาย และรู้สึกผ่อนคลาย อีกทั้งยังช่วยบำรุงสมองและระบบประสาทได้อีกด้วย
โบตั๋น
4.ดอกโบตั๋น
มาต่อกันที่ต่อไม้ชนิดถัดมาเลยดีกว่า นั่นคือ ดอกโบตั๋น เป็นดอกไม้ที่ได้รับการขนานนามว่า “ราชาแห่งมวลดอกไม้” และนิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมในครีมอาบน้ำเนื่องจาก สารสกัดจากดอกโบตั๋นมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวให้เกิดความชุ่มชื้น ดูเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล และโบตั๋นยังเป็นพืชล้มลุกที่มีสรรพคุณทางยาเป็นจำนวนมาก  โดยมักนำรากและดอกของโบตั๋นที่ปลูกในจีนมาปรุงเป็นยาสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคได้หลากหลาย เช่น รักษาระดูผิดปกติ  โรคหืด โรคลมชัก ใช้เป็นยาแก้พิษ หรือใช้เป็นส่วนหนึ่งในการต้านเนื้องงอก เป็นต้น แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าโบตั๋นสามารถนำมาใช้ทำชาได้ ซึ่งชาโบตั๋น เหมาะมากๆสำหรับสาวๆ เพราะนอกจากจะรักษาอาการอักเสบ โรคภูมิแพ้ และช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีแล้ว ยังช่วยบำรุงดูแลผิว ต้านแบคทีเรีย  รวมถึงช่วยลดอาการปวดท้อง และรักษาอาการประจำเดือนมาไม่ปกติด้วยนั่นเองค่ะ
ชาขาว
5.ใบชาขาว
มาถึงอันสุดท้ายกันแล้วค่า นั่นก็คือ ใบชาขาว เป็นใบชาชนิดหนึ่งที่มาจากยอดอ่อนของต้นชา ซึ่งต้องเลือกเก็บเกี่ยวเองกับมือเพราะจะอยู่บริเวณยอดบนสุด มีเพียงใบเดียวเท่านั้น และถือได้ว่าเป็นหนึ่งในชาที่ดีที่สุด เปรียบเป็นชาชั้นสูง เนื่องจากเป็นชาที่หายาก ราคาแพง และมีคุณสมบัติดี  จึงนิยมนำมาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์และสุขภาพ เพราะสามารถช่วยในการต่อต้านโรคเรื้อรัง ชะลอการเติบโตของเซลล์ก่อมะเร็ง ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ต้านอนุมูลอิสระ และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ที่สำคัญยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปาก เพราะสามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ที่ก่อให้เกิดฟันผุ และยังช่วยทำให้ผิวของฟันแข็งแรงขึ้น ป้องกันอาหารที่มีความเป็นกรดเข้ามากัดกร่อนทำลายชั้นฟันภายในได้อีกด้วยนะคะ