image

      ชีวิตวัยเด็กผมเป็นคน”ฝั่งธนฯ”ความเจริญของฝั่งธนฯเริ่มจากมี”สะพานพุทธ”เชื่อมระหว่างฝั่งพระนครและธนบุรีสมัยร.7ปีพ.ศ.
2475เพื่อฉลองพระนครครบ150ปี

         ต่อมาปีพ.ศ.2515รัฐบาลจอมพลถนอม ให้รวมพระนครและธนบุรีเข้าด้วยกันเป็นกทม.ผมจึงกลายเป็น”เด็กเทพ”ตั้งแต่นั้น

        บ้านอยู่ถนนวังเดิม อ.บางกอกใหญ่ เป็นถนนสายสั้นๆประมาณ300เมตร เริ่มจากบริเวณกองบัญชาการกองทัพเรือซึ่งเดิมคือพระราชวังเดิมของพระเจ้าตากสิน(พ.ศ.2310-2325)มาต่อกับถ.อิสรภาพ ที่แยกโพธิ์สามต้น
        กองบัญชาการกองทัพเรือ

image

image

image

image

image

         ถนนและสถานที่แถบนี้สมัยร.6 กรมพระยาดำรงฯได้ทรงตั้งชื่อตามสถานที่สำคัญในการกอบกู้เอกราชของพระเจ้าตากและสมัยจอมพล ป.ก็ถือเป็นนโยบายเช่นกัน เช่น ถ.วังเดิม คือวังเดิมของพระเจ้าตาก สามแยกโพธิ์สามต้น คือค่ายโพธิ์สามต้นที่อ.บางปะหัน จ.อยุธยาฯ ที่พระเจ้าตากสินตีแตกเมื่อพ.ศ.2310 ถ.พรานนก เป็นชื่อสมรภูมิแห่งแรกที่พระเจ้าตากรบชนะพม่าอยู่ที่อ.อุทัย อยุธยา ถ.อิสรภาพ คือการประกาศ
อิสรภาพของไทยที่ขับไล่พม่าที่ค่ายโพธิ์สามต้นฯลฯ

       แผนที่พระราชวังกรุงธนบุรี

image

         ชุมชนบ้านผมสังเกตไม่ยาก เมื่ออยู่ฝั่งพระนคร ที่ท่าเตียนมองข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเห็นพระปรางค์วัดอรุณฯตระหง่านงามสง่า
เป็นที่หมายตา ใต้ลงมาเป็นกองทัพเรือและ
ป้อมวิไชยประสิทธิ์บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่(คลองบางหลวง)

       บริเวณชุมชนบ้านผมคือบริเวณพระปรางค์จรดป้อมวิไชยประสิทธิ์ มาตามแนวคลองบางหลวง ซึ่งแถบนี้จะมีวัดโบราณริม
น้ำเช่นวัดเครือวัลย์ วัดอรุณฯ วัดโมลีโลกฯ
วัดหงส์รัตนาราม วัดราชสิทธาราม และยังมีมัสยิดและศาลเจ้า  จึงเป็นชุมชนหลากหลายวัฒนธรรมอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขตลอดมา

       วัดเครือวัลย์ฯ

image

       วัดอรุณฯ

image

image

      วัดโมลีโลกฯ

image

image

      วัดหงส์ฯ

image

image

      วัดราชสิทธารามฯ

image

image

ป้อมวิไชยประสิทธิ์

image

         ช่วงชีวิตวัยเด็กเกือบ60ปีมาแล้วถ.วังเดิม มีรร.นายเรือ(ต่อมาย้ายไปอยู่
ปากนำ้)และโรงพักบางกอกใหญ่เป็นศูนย์กลาง มีหลุมหลบภัยใหญ่สมัยสงครามโลกครั้งที่2อยู่หน้ากองทัพเรือถัดข้ามคลองวัดโมลีโลกเป็นตึกแถว6-7ห้องสร้างสมัยสมัยร.6 จากนั้นเป็นห้องแถวไม้ทั้ง2ฝั่งจนถึงโรงพัก ต่อจากนั้นเป็นสภาพสวนผลไม้ทั้งหมด

        คลองวัดโมลีโลก

image

         ตึกแถวรุ่นที่1สมัยร.6

image

       โรงพักบางกอกใหญ่

image

      -ตึกแถวรุ่นที่2อยู่ที่หัวถนนตรงสามแยกโพธิ์สามต้นปีพศ2492″ตึกเวชชทนต์”..(ปัจจุบันเป็นโรงแรม…)จำได้ว่าตอนนั้นอยู่ป.3-ป.4เปิดเทอมแม่จะพามาซื้อกระเป๋าหนัง รองเท้าหนัง ที่นี่
        ตึกแถวรุ่นที่2พ.ศ.2492

image

image

       -ตรงข้ามตึกแถวรุ่น2เป็น   “สวนสัตว์
ธนบุรี”จะมีหนังขายยามาฉาย สมัยเด็กเคยขนหัวลุกกับหนังผี”เรื่อง ไอ้กุ่ย”มันจะห้อยหัวลงมาจากต้นไม้คล่อมคลอง สมัยนั้นช่วงจากสวนสัตว์มาบ้านผมข้างโรงพักเปลี่ยวมากผ่านแถวนี้เราจะใช้วิธี”วิ่งกลับบ้าน”
         -บ้านผมเป็นสวนมีต้นไม้ใหญ่ๆ พ่อชอบซื้อกล้วยไม้ป่าจากสนามหลวงตระกูล”ช้าง”และ”เอื้อง”มาเกาะบนต้นไม้ช่วงเดือนพ.ย.-ก.พ. จะส่งกลิ่นหอมอบอวล
         พ่อชอบเลี้ยงสัตว์ ไก่แจ้ ไก่ต๊อก ไก่งวง เลี้ยงกล้วยไม้ บอนสี กล้วยไม้ดิน วันเสาว์-อาทิตย์ พวกเราเคยช่วยพ่อขนกล้วยไม้ไปขายที่สนามหลวง จำได้ว่าฝูงไก่ต๊อกก่อนฝนจะตก พวกเขาจะส่งสัญญานร้องเสียงเอะอะทำให้รู้ว่าเดี๋ยวจะมีฝน
        วันหยุดพวกเราช่วยพ่อปลูกกล้วยไม้ เอากระดูกวัวมาเผาทำเป็นปุ๋ยกล้วยไม้ กลางวันจะมีปาร์ตี้ ข้าวต้มกุ๊ย จะไปซื้อเครื่องข้าวต้มผักดองต่างๆจากร้านเจ็กห้องแถวไม้หน้าโรงพัก เขาจะดองใส่ไห สมัยนั้นยังไม่มีอาหารกระป๋อง

         -หลังบ้านเราเป็นคลอง ช่วงนั้นธรรมชาติยังงดงาม ในคลองมีปลาตีน กุ้งดีดขัน หอยทราย ปลาบู่ ข้างถนนวังเดิมเป็นท้องร่องพวกเราชอบไปช้อนปลากัดป่า ปลาหัวตะกั่ว ปลาเข็ม มาเลี้ยง เดี๋ยวนี้ทุกอย่าง
หมดสภาพแลัวอย่างน่าเสียดาย
        ถัดจากหลังบ้านจรดคลองบางหลวงเป็นอาณาเขตของวัดหงส์รัตนาราม

        -วัดหงส์ฯอยู่ริมคลองบางหลวง สร้างสมัยอยุธยาฯ เจริญสุดขีดสมัยกรุงธนบุรีเพราะอยู่ติดเขตุพระราชฐาน พระเจ้าตากปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ ต่อมาบูรณะใหญ่สมัยร.3โดยพระปิ่นเกล้าเป็นแม่กอง ต่อมาพระปิ่นเกล้าสวรรคต ร.4จึงดำเนินการต่อจนสำเร็จ

image

        -สมัย80ปีก่อนบริเวณวัดมีต้นไม้ใหญ่โบราณร่มครึ้ม มีโบสถ์ร้างเถาวัลย์ปกคลุมน่าสะพึงกลัว “ขึ้นชื่อว่าผีดุ” สมัยนั้นการสัญจรใช้ทางเรือโดยคลองบางหลวง
       -แม่เล่าว่าคุณย่านั่งเรือมาขึ้นที่ท่าเรือวัดหงส์ฯพร้อมพี่สาวคนโตของผมอายุ2-3ขวบ ช่วงนั้นพลบค่ำต้องอุ้มหลานเดินผ่านวัดมาบ้าน
         -หลานบอกคุณย่าว่า”ดูนั่น เด็กผมจุกบนต้นไม้ กวักมือเรียกหนูให้ไปเล่นด้วย”
คุณย่ากลัวจนตัวแข็งขนลุก รีบแจวอ้าวกลับบ้าน
       -สมัยผมเด็กรุ่น15-16ปี ยังน่ากลัวเดินผ่านเห็นโบสถ์ร้างเถาวัลย์ปกคลุมเห็นพระประธานหุ้มปูนสูงเด่นมีต้นโพธิ์เกาะแผ่กิ่งก้านครึ้ม
        -ต่อมาพ.ศ.2499ปูนกระเทาะเห็นเนื้อทองคำสุกงามเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยปางมารวิชัยมีจารึกที่ฐานอักษรโบราณสมัยพ่อขุนรามคำแหงสร้างปี1963ซึ่งจารึกอักษรลักษณะเช่นนี้พบเพียง3องค์อยู่ในพิพิทธภัณฑ์สถานแห่งชาติ1องค์ วัดพระเชตุพน1องค์และวัดหงส์ฯ1องค์หน้าตัก1.6ม.สูง1.83ม.
     พระพุทธรูปทองคำ

image

image

        ในวิหารพระพุทธรูปทองคำจัดแสดงพระพุทธรูป7สมัย คือ ทราวดี ศรีวิชัย ลพบุรี เชียงแสน สุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์โดยพระพุทธรูปทองคำอยู่ในสมัยสุโขทัย

image

      -วิหารหลวงพ่อทองคำ สกุลชูโต เป็นผู้สร้างมีแผ่นศิลาจารึก “อุทิศส่วนพระราชกุศลถวาย สมเด็จพระรูปสิริโสภาคย์มหานาคนารี
          อุทิศส่วนกุศลแด่เจ้าคุณราชสัมพันธ์ชูโต ต้นสกุลชูโต พร้อมด้วยบรรพบุรุษและบรรพสตรี”

image

image

image

        -สมเด็จพระรูปสิริโสภาคย์ฯเป็นพระราชมารดาในสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินีในร.1  สำหรับเจ้าคุณราชสัมพันธ์ชูโต เป็นพระเชษฐาของสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี
        หม่อมคึกฤทธิ์ฯเล่าใน”หนังสือโครงกระดูกในตู้”ว่าเจ้าคุณชูโต ต้นสกุล”ชูโต”ท่านมีเชื้อมอญเป็นคนรักชาติอย่างแรงกล้าและใจร้อน เมื่อหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี(ร.1)ตัดสินใจเข้ามารับราชการกับเจ้ากรุงธนบุรี เจ้าคุณชูโตก็ลงเรือมาพร้อมกับหลวงยกกระบัตรน้องเขยและน้องสาวคือสมเด็จพระอมรินทราฯ ท่านไม่พอใจน้องเขยกับน้องสาวว่าไม่รู้กาละเทศะนั่งหยอกล้อกันในเรือ จึงสั่งให้หันหัวเรือขึ้นตลิ่งและท่านก็ถือดาบสองมือบุกเข้าป่าเพื่อรีบไปรบกับพม่าโดยไม่ฟังคำทัดทาน สมัยนั้นยังมีเสือและสัตว์ร้ายอาศัยอยู่มาก
       -จนบัดนี้ยังไม่พบศพเจ้าคุณชูโต คงเหลือบุตรหลานสืบสกุลชูโตมาจนบัดนี้
         -พระอุโบสถขนาดใหญ่กว้างเกือบ20ม.ยาว42ม. หลังคาเป็นมุขลด2ชั้นหน้าบันทำเป็น2ชั้นประดับลายรูปหงส์ คันทวยทำเป็นรูปหงส์ ด้านหน้ามี3ประตู มีลวดลายปูนปั้นประดับซุ้มประตู หน้าต่างได้รับการยกย่องว่ามีความงามเป็นเลิศแห่งหนึ่ง

image

image

image

image

image

image

image

         ผนังโบสถ์เหนือระดับหน้าต่างเป็นจิตกรรมพุ่มข้าวบิณฑ์ ภาพเขียนระหว่างช่องหน้าต่างเป็นเรื่องเกี่ยวกับทศชาติ

image

image

image

image

        ในโบสถ์ยังมีชุดกระจก3บาน ศีลปพระราชนิยมร.3 เรื่องตำนานรัตนพิมพ์วงศ์(พระแก้วมรกต)

image

         พระประธานปางมารวิชัยศีลปอู่ทองสร้างสมัยอยุธยา
        หน้าพระประธานมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์บนบุศบก มีความเก่าแก่หน้าตัก2ศอกเศษ”หลวงพ่อแสน”ศีลปล้านช้าง ร.4อัญเชิญจากเมืองเชียงแตง แคว้นล้านช้างซึ่งร.4กล่าวว่ามีลักษณะพิเศษสวยงามเก่าแก่คนโบราณนับถือกันมาก อีกทั้งยังเป็นพระหัวหน้าชุดในพระพุทธรูปที่นำมาจาก
แคว้นล้านช้าง อันได้แก่ พระแสนที่วัดปทุมวนาราม พระอินทร์แปลงในวิหารวัดเสนาสนาราม อยุธยา พระอรุณในพระวิหารวัดอรุณฯและพระพุทธรูปอื่นๆในวิหารพระพุทธบาท ในอุโบสถวัดเขมาภิรตาราม
และในพระอุโบสถวัดชัยพฤกษ์มาลา

image

image

        ที่ผนังโบสถ์มีแผ่นหินสลักบรรจุอังคารของท่านเจ้าพระยายมราช(ปั้น สุขุม)และท่านผู้หญิงยมราช(ตลับ สุขุม)

image

         เจ้าพระยายมราช(ปั้น สุขุม)เป็นชาวสุพรรณฯเป็นพระบวชเรียนที่วัดหงส์ฯลาสิกขาเข้ารับราชการ เป็นผู้วางรากฐานการประปา ไฟฟ้า รับราชการมาถึง4แผ่นดิน โดยเป็นผู้สำเร็จราชการในร.8 ต้นตระกูลสุขุม เป็นผู้อุปถัมถ์วัดรายสำคัญ

        สระน้ำมนต์: เล่ากันว่ามีการลงอาคมของสังฆราช 3 พระองค์ ในสมัยกรุงธนบุรีและมีการนำเอาหินอาคมของสังฆราช สุก ไก่เถื่อน สังฆราชสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ลงไว้ด้วย ปัจจุบันมีการอัญเชิญน้ำมนต์ศักสิทธิ์จาก108 พระอารามใน 77 จังหวัด

image

image

image

image

         ที่สระน้ำมนต์นี้สมัยผมเด็กๆ มีคลองเชื่อมจากคลองบางหลวงไหลผ่านสระน้ำมนต์มาบ้านผม เคยพายเรือจะออกคลองบางหลวงมาถึงสระน้ำมนต์เรือวิ่งเข้าไปเกยกอเหงือกปลาหมอ เรือล่มโดนหนามเกี่ยวทั่วตัว เดี๋ยวนี้คลองเป็นเพียงทางระบายน้ำยังมีร่องรอยต้นเหงือกปลาหมออยู่     

image

        ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน:
กล่าวกันว่าศาลแห่งแรกของ”เจ้าตาก”อยู่ที่วัดหงส์ฯ เล่าสืบกันมาว่าเมื่อครั้งมีการสำเร็จโทษเจ้าตากเมื่อ6 เมย.2325 ปรากฏว่าโลหิตของพระองค์ตกลง ณ ที่แห่งนี้จึงได้สร้างศาลเพียงตาให้ประชาชนสักการะ

image

image

image

image

       -ด้านหลังอนุสาวรีย์พระเจ้าตากจะเห็น”ดวงตรามหาเดช”เป็นตราประจำพระองค์ซึ่งเดิมเป็นธงนำทัพตั้งแต่สมัยเป็นพระยาตาก ดวงตรานี้ตกทอดมายังวัดอินทาราม ย่านตลาดพลูซึ่งเป็นวัดประจำรัชกาลของพระองค์

image

         วัดหงส์ฯเจริญมากสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีเป็นศูนย์กลางการศึกษาทางศาสนา พระองค์เมื่อมีเวลาว่างจะเข้ามา
เจริญวิปัสสนากรรมฐานในโบสถ์ พระองค์ได้นิมนต์พระจากอ.แกลงในสมัยที่พระองค์ยกทัพไปจันทบุรีให้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดหงส์ฯและต่อมาได้เป็นสังฆราชองค์ที่3ในสมัยพระองค์ ต่อมาเมื่อเปลี่ยนรัชกาลพระสงฆ์องค์นี้ “สังฆราชชื่น” ก็ยังมีความสำคัญเป็นแม่กองสังคายนาพระไตรปิฏก แสดงว่าพระเจ้าตากสินมีสายตาแหลมคมทางศาสนา

image

       บุคคลที่ผ่านการบวชเรียนจากวัดนี้เมื่อไปรับราชการก็มีตำแหน่งสำคัญเช่นเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) พระยาธรรมปรีชามหากวี สมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีและร.1นอกจากนี้พระที่ผ่านสำนักวัดหงส์ฯได้ไปเป็นสังฆราชในสมัยร.2 “สังฆราช ด่อน”

image

         สมัยผมเด็กเรียนรร.ทวีธาภิเศกมีลูกศิษย์วัดหงส์ฯรุ่นพี่เรียนรร.เดียวกันชื่อ
วิเชียร(ยอดชาย) เมฆสุวรรณ มีความประพฤติดี เป็นศิษย์รักของครูวาดเขียน”ครู
แก้ว”ทำชื่อเสียงให้โรงเรียนโดยชนะการประกวดภาพเขียนในงาน “ศิลปหัตกรรมนักเรียน” ที่สวนอัมพร ตลอดมา เช้าๆจะเห็นเขาในชุดนักเรียน กล้ามใหญ่หน้าตาดีหิ้วปิ่นโตตามหลวงพี่

      เขาใช้ชีวิตบั้นปลายทำประโยชน์ด้าน
ศีลปให้สังคมโดยเป็นประติมากร เป็นคนริเริ่มปั้นหุ่นขี้ผึ้งของนักแสดงไทยในอดีตโดยสร้างพิพิทธภัณฑ์บันเทิงไทยชื่อ
“ยอดชาย เมฆสุวรรณ มิวเซียม ออฟ อาร์ท” อยู่สุดปลายทางของถนนบรมราชชนนี สาธุๆๆๆ

         ที่วัดนี้ยังมีที่บรรจุอัฐิของนักเขียนชื่อดัง”พ. เนตรรังษี”เจ้าของผลงาน”เด็กบ้านสวน”

image

image

    และยังมีที่บรรจุอัฐิของ ศ. พูน เกษจำรัส
ศีลปินแห่งชาติ2531 สาขาทัศนศีลป  ด้าน
ศีลปะภาพถ่าย และเป็นบุคคลดีเด่นแห่งชาติ2533 ซึ่ง อังคาร กัลยาณพงศ์ กวีซีไรต์ ได้เขียนโคลง เชิดชูสลักไว้

image

image

       จากวัดหงส์ฯผมเดินทอดน่องไปรำลึกความหลังที่วัดโมลีโลกซึ่งอยู่ติดกัน