ถ้ำลอด

สถานศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าถ้ำน้ำลอด ตั้งอยู่ที่ตำบลถ้ำลอดห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ประมาณ 77 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวงสาย 1095 (ปางมะผ้า-ปาย) ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 138-139 มีทางแยกซ้ายจากอำเภอปางมะผ้าเข้าไปตามทางบ้านถ้ำลอดอีกประมาณ 9 กิโลเมตร เป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญ ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มแม่น้ำปาย มีสถานที่น่าสนใจ คือ ถ้ำลอด ซึ่งมีลำห้วยชื่อ น้ำลาง ไหลลอดภูเขาไปทะลุออกอีกด้านหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม จากการพบเครื่องมือเครื่องใช้โบราณในถ้ำ สันนิษฐานได้ว่ามีอายุประมาณ 2,000 ปีมาแล้ว

1

ภายในถ้ำมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ประกอบด้วยห้องโถงใหญ่อีก 3 ห้อง เรียกชื่อต่างๆ กันคือ ถ้ำเสาหินหลวง เป็นถ้ำกว้างใหญ่ มีหินงอกหินย้อยสวยงาม ถ้ำตุ๊กตา มีหินงอกเป็นปุ่มปมเล็กๆ คล้ายตุ๊กตาเรียงรายอยู่มากมาย และด้านหนึ่งของผนังถ้ำยังปรากฏภาพเขียนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ถ้ำนี้เป็นถ้ำที่กว้างและยาวที่สุดในถ้ำลอด ถ้ำสุดท้ายอยู่ด้านทางออกคือ ถ้ำผีแมน นอกจากมี หินงอกหินย้อยสวยงามแล้ว ยังเป็นที่พบเศษภาชนะดินเผา เมล็ดพืช เครื่องมือหิน ซีกฟันและกระดูกของมนุษย์ รวมทั้ง โลงผีแมน อีกด้วย โลงผีแมนนี้มีลักษณะเป็นท่อนไม้ที่ถูกขุดตรงส่วนกลางออกเป็นร่องคล้ายเรือ หรือรางไม้ใส่อาหารให้สัตว์เลี้ยง มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ โดยโลงขนาดใหญ่จะถูกวางอยู่บนคานโดยใช้เสา 4-6 ต้น ตั้งกับพื้นถ้ำ และเสาแต่ละคู่จะถูกเจาะเป็นช่องเพื่อสอดใส่คานไว้วางพาดโลงผีแมน

2

สำหรับการเข้าชมถ้ำนั้น จะเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. แต่นักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าชมเองได้ เนื่องจากภายในถ้ำมืดมาก จึงต้องใช้บริการผู้นำทางพร้อมตะเกียงเจ้าพายุและนั่งแพไปชมถ้ำต่างๆ ค่าผู้นำทางพร้อมตะเกียง 150 บาท ต่อคณะนักท่องเที่ยว 5 คน ค่าแพ 400 บาท/คณะ ใช้เวลาในการชมถ้ำต่างๆ ประมาณ 2 ชั่วโมง การเดินชมถ้ำจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะเป็นการชม 2 ถ้ำใหญ่ คือ ถ้ำเสาหินหลวง และถ้ำตุ๊กตาและช่วงที่สองจะนำชมถ้ำผีแมน

บริเวณที่ทำการยังมีบ้านพักไว้บริการ และอนุญาตให้ตั้งเต็นท์พักแรมได้ โดยติดต่อโดยตรงที่หน่วยบริการภายในสถานศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าถ้ำน้ำลอด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน่วยบริการสถานศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าถ้ำน้ำลอด โทร.0 5361 7218 หรือศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยว จังหวัดแม่ฮ่องสอน โทร.0 5361 2982-3

นอกจากนี้ ในเขตอำเภอปางมะผ้า ยังมีผู้สำรวจพบถ้ำต่างๆ อีกหลายถ้ำ เช่น ถ้ำผาเผือก ถ้ำผาแดง ถ้ำปางคำ ถ้ำน้ำตก ถ้ำซู่ซ่า ถ้ำผามอญ ถ้ำแม่ละนาฯลฯเนื่องจากถ้ำเหล่านี้ยังไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ อีกทั้งการเดินทางยากลำบาก ถ้ำบางแห่งมีระยะทางลึกมาก (โดยเฉพาะถ้ำแม่ละนา ที่นักสำรวจถ้ำคาดว่าลึกประมาณ 13 กิโลเมตร) และมีลำธาร บางช่วงอาจต้องว่ายน้ำไป จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยและเสาะแสวงหาธรรมชาติอย่างแท้จริง การเดินทางไปถ้ำแม่ละนา ไปตามทางหลวงหมายเลข 1095 (ปาย-แม่ฮ่องสอน) เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1226 ไปบ้านแม่ละนา 6 กิโลเมตร จากบ้านแม่ละนาไปอีก 4 กิโลเมตร ก็จะถึงตัวถ้ำ นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเข้าไปเที่ยวในถ้ำจะต้องหาผู้นำทางที่บ้านแม่ละนา

เดินทางมุ่งหน้าสู่ถ้ำลอด การมาเที่ยวถ้ำลอดของทีมงานเราในวันนี้เราเลือกที่จะค้างคืนอยู่ที่บ้านสบป่อง โรงแรมสบป่องริเวอร์อินน์ ซึ่งทีแรกก็อยากจะนอนที่ เดอะร็อค การ์เด้นท์ รีสอร์ท แต่พอดีห้องว่างไม่มีเลย แต่ที่พักที่เราเลือกก็ไม่เลวครับบรรยากาศดีห้องพักสวยและสะอาด บางทีการที่จะมาเที่ยวถ้ำลอดก็ไม่จำเป็นที่จะต้องค้างที่ปางมะผ้าเหมือนเรา เพียงแต่ในทริปที่เราวางแผนเอาไว้ การค้างที่นี่จะได้ประหยัดเวลาในการเที่ยวของเราได้ก็เท่านั้นเอง ออกจากบ้านสบป่อง มุ่งหน้าไปทางปาย ไม่กี่กิโลเมตรจะมีทางแยกเข้าบ้านถ้ำลอดเป็นทางแยกตัววายทางซ้ายมือผ่านสาธารณสุขปางมะผ้า เข้าไปอีก 9 กิโลเมตร เส้นทางสายนี้เป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวเดาว่าคงเป็นเพราะต้องการตัดถนนหลบต้นไม้ใหญ่ เพื่อรักษาธรรมชาติเอาไว้ให้มากที่สุดผ่านฝายเราจะเห็นชาวบ้านทั้งเด็กและผู้ใหญ่มาร่อนหาแร่น่าจะเป็นทองหรือเปล่าไม่รู้ นอกจากจะมาหาอะไรในสายน้ำแล้ว ที่ฝายแห่งนี้ก็เป็นสถานที่ลงเล่นน้ำที่เด็กๆ ชื่นชอบทั้งหมู่บ้าน จนในที่สุดเราก็มาถึงลานจอดรถของถ้ำลอดเป็นจุดหมายของเราในเช้าวันนี้

บรรยากาศถ้ำลอด ก่อนที่เราจะเดินเข้าไปเที่ยวถ้ำจะต้องมีแพสำหรับล่องไปตามน้ำลอดใต้ถ้ำไปทะลุอีกด้าน และต้องมีตะเกียงกับคนนำทาง ถ้ำลอดเป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ บางจุดมีโถงให้ปีนขึ้นไปสูงประมาณตึกหลายชั้นจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นถ้ำ ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงไม่สามารถเดินเที่ยวเองโดยไม่มีตะเกียงกับคนนำทางและก็แพ สนนราคาสำหรับแพที่จะพาเราเข้าไปเที่ยวภายในถ้ำตั้งแต่ต้นจนไปทะลุอีกด้านหนึ่งแล้วย้อนกลับมาส่งเราที่เดิมราคาลำละ 400 บาท จุนักท่องเที่ยวได้ 4 ที่นั่ง ผู้นำทางพร้อมตะเกียงเจ้าพายุ 150 บาท รวมเป็น 550 บาท ต่อ 1 ลำ หารด้วยนักท่องเที่ยว 4 คน ถือว่าไม่แพงเลยครับ ทีแรกผมว่าแพงอยู่แต่พอเข้าไปเที่ยวจนถึงตอนขากลับออกมาจากถ้ำรู้สึกว่าถูกมากสำหรับบริการขนาดนี้ คนละร้อยกว่าบาทเอง สอบถามรายละเอียดได้ที่ซุ้มบริการนักท่องเที่ยว หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วก็เดินไปที่ปากถ้ำลอดระยะทางไม่ไกลมาก บรรยากาศร่มรื่นเพราะเป็นป่าเชิงเขาที่อนุรักษ์กันอย่างดี

ปากถ้ำเสาหินหลวง ตอนเดินขึ้นมาผมไม่ทันได้มองว่าฝั่งตรงข้ามของลำธารที่เราจอดแพก็จะมีที่จอดแพเหมือนกัน ห่างกันไม่มากเท่าไหร่ ก็พอที่จะเดินข้ามไปได้แต่ไม่รู้ว่าน้ำลึกขนาดไหน พอเดินเที่ยวถ้ำเสาหินหลวงจนหมดแล้วก็เดินย้อนกลับออกมา มองลงไปข้างล่างเห็นแพมาจอดแล้วคนก็ค่อยๆ เดินขึ้นไปอีกถ้ำหนึ่ง ซึ่งเป็นถ้ำที่ 2 ในถ้ำลอด เรียกว่าถ้ำตุ๊กตา จะเป็นยังไงเดี๋ยวเราก็จะได้ไปดูต่อจากนี้ละครับ

ปากถ้ำลอด ฝั่งที่เราจะล่องแพเข้าไปปากถ้ำดูเล็กคือเตี้ยแต่กว้าง เท่าที่เคยเห็นในรูปปากถ้ำลอดนึกว่าจะสูงใหญ่กว่านี้ซะอีก อันที่จริงเป็นปากถ้ำที่อยู่อีกด้านหนึ่งจะสูงใหญ่ ตอนนี้ชาวบ้านที่รับอาสามาพาเราเข้าไปเที่ยวก็จะจัดเตรียมอุปกรณ์ได้แก่แพ และการเติมน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อยจากนั้นเขาจะบอกเราว่าแพของเราลำไหนซึ่งไม่ต้องไปจำ เพราะในระหว่างการเดินทางเที่ยวภายในถ้ำเราจะต้องเปลี่ยนแพไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับว่าเราเดินชมถ้ำเร็วหรือช้า พอเราลุกออกจากแพขึ้นไปเดินเที่ยวถ้ำแต่ละแห่ง นักท่องเที่ยวที่เดินสวนเราลงมาก็จะนั่งในแพเราแล้วออกเดินทางต่อส่วนเราก็ต้องต่อแพลำใหม่ที่จะมาจอดเรียงรายกันตรงที่เราลงจากแพ ดังนั้น อย่าวางสิ่งของอะไรไว้ในแพเด็ดขาด