The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง-การเปรียบเทียบปริมาณแอลกอฮอล์ในผลไม้-

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง-การเปรียบเทียบปริมาณแอลกอฮอล์ในผลไม้-

โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง-การเปรียบเทียบปริมาณแอลกอฮอล์ในผลไม้-

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภททดลอง
เร่อื ง

การเปรียบเทียบปรมิ าณแอลกอฮอลใ์ นผลไม้

ผ้จู ดั ทา

เดก็ หญิงอนธุ ิดา สมบัติ
เด็กหญงิ ทตั พชิ า ตามะลี
เด็กหญิงรัชนก บัวคา

ครูทป่ี รกึ ษา
ครจู ฬุ าลกั ษณ์ สุกัน
ครูสมจติ พมิ ดา
โรงเรยี นชุมชนบา้ นโนนสมบรู ณ(์ ธนาคารกรุงเทพ๒๙)

รายงานฉบับนเี้ ปน็ สว่ นประกอบของโครงงานวทิ ยาศาสตร์
ประเภททดลอง ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔-๖

เนือ่ งในงานศิลปหตั ถกรรมนักเรยี น ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ ครงั้ ท่ี ๗๐

ระดบั กล่มุ โรงเรียนโนนสมบรู ณ์ นาสวรรค์ คานาดี
วนั ท่ี ๑๓ เดอื นพฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๕

ณ โรงเรียนบา้ นนาสวรรค์ อาเภอเมอื งบงึ กาฬ จังหวัดบึงกาฬ
สานักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาบึงกาฬ

บทคดั ย่อ

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภททดลอง เรือ่ ง การเปรยี บเทียบปริมาณแอลกอฮอล์
ในผลไม้ มวี ตั ถุประสงค์ในการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เพ่ือเปรียบเทียบ
ปรมิ าณการเกดิ แอลกอฮอร์ในผลไม้ ๓ ชนิดและเพ่ือศกึ ษาความพงึ พอใจตอ่ รสชาติของไวน์
ผลไม้ทัง้ สามชนดิ

จากการทดลอง พบวา่ หลังหมกั ไวน์ผลไม้ ๑ สปั ดาห์ ถงั หมกั ที่ ๑ ไวนล์ ูกเมา่
มีปรมิ าณแอลกอฮอรม์ ากท่ีสุดสังเกตจากการเปดิ จกุ ขวดเสียงจะดังกวา่ ถังที่ ๒ และ ๓
เรยี งตามลาดับ เม่ือนาน้าหมักไวน์ผลไม้ไปให้คุณครูในโรงเรยี นชิมจานวน ๓๐ คนพบวา่
๑๘ คนชอบรสชาตไิ วนล์ ูกเมา่ ๑๐ คน ชอบไวน์สปั ปะรด และอีก ๒ คนชอบไวนอ์ งนุ่

ปริมาณการเกิดแอลกอฮอร์ในผลไม้ ๓ ชนดิ มปี ริมาณแตกต่างกัน ท้ังนี้จะเห็นวา่
ผลไม้ทม่ี รี สชาติเปรยี้ วจะมีอตั ราการเกดิ ปรมิ าณการเกิดแอลกอฮอรส์ งู สาหรบั ความพงึ พอใจ
ของคณะครใู นโรงเรยี นชมุ ชนบ้านโนนสมบูรณ์ธนาคารกรุงเทพ ๒๙ มคี วามพึงพอใจต่อ
รสชาติของไวนล์ กู เม่ามากที่สดุ รองลงมาคอื ไวน์สปั ปะรดและ ไวน์องุ่นตามลาดบั จะเหน็ ไดว้ า่
ความพึงพอใจของไวนท์ ้ังสามชนดิ ทง้ั นข้ี น้ึ อยู่กับความชอบของแตล่ ะบุคคลและราคาของผลไม้
ท่ีนามาจัดทาในการทดลองนไ้ี วน์ ในชว่ งนลี้ ูกเม่าจะหาได้งา่ ยในท้องถ่นิ ราคาถูก สว่ นสปั ปะรด
และองุน่ ต้องเสยี ค่าใช้จา่ ยสูงขน้ึ ในการจัดทาประกอบกบั รสชาติไม่เป็นท่ีต้องการของชุมชนจงึ
ทาใหไ้ ม่เป็นที่นยิ มในการทาไวน์

กติ ติกรรมประกาศ

การจัดทาโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การเปรียบเทียบ
ปริมาณแอลกอฮอล์ในผลไม้ ในคร้ังน้ี ประสบผลสาเร็จได้เป็นอย่างดี เนื่องจากได้รับ
คาปรึกษาชี้แนะจากคุณครูที่ปรึกษา คุณครูจุฬาลักษณ์ สุกัน คุณครูสมจิต พิมดา
และคณะครูในโรงเรียนทุกท่าน รวมทั้งการได้รับการสนับสนุนจากท่านผู้อานวยการ
โรงเรียน นายเบญจพล สุภาจิน ขอขอบพระคุณทุกทา่ นทีใ่ หค้ วามชว่ ยเหลอื

คณะผ้จู ดั ทา

สารบัญ

หน้า

บทคัดย่อ
กิตตกิ รรมประกาศ

บทที่ ๑ บทนา ๑
ท่มี าและความสาคญั ๑
จดุ มุ่งหมายในการทาโครงงาน ๑
สมมุติฐานท่ใี ช้ในการศึกษา ๑
ตวั แปรทีใ่ ชใ้ นการศกึ ษา ๑
ขอบเขตในการศกึ ษา ๑
นิยามเชงิ ปฏิบตั กิ าร ๒

บทที่ ๒ เอกสารทเี่ กย่ี วข้อง ๕
บทที่ ๓ วธิ ีการดาเนินการ ๗
บทท่ี ๔ ผลการดาเนนิ การ ๘
บทที่ ๕ สรุปผลการดาเนินการ/อภปิ รายผลการดาเนินการ

บรรณานกุ รม ๑๐
ภาคผนวก

- รปู ภาพประกอบการทาโครงงาน

บทท่ี ๑
บทนา

1. ทีม่ าและความสาคญั ของโครงงาน

ไวน์เป็นเคร่ืองดื่มท่ีมีแอลกอฮอล์ท่ีได้จากการหมักน้าผลไม้ ในท้องถ่ิน กับเชื้อยีสต์
อาจจะมีช่ือแตกต่างกันไปตามวัตถุดิบที่นามาใช้ทา เช่น ถ้าเอาน้าองุ่นมาหมักกับเช้ือยีสต์ จะ
เรียกว่าไวน์องุ่น หากเอาลูกเม่ามาหลักกับเช้ือยีสต์ เราก็เรียกว่า ไวน์ลูกเม่า หรืออาจเอาน้า
สปั ปะรดมาหมกั กับเชอ้ื ยสี ตเ์ ราก็เรียกว่า ไวนส์ ปั ปะรดไดเ้ ช่นกนั

ในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ นั้น นักเรียนระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔-๖
ชุมนมุ วิทยาศาสตร์ ได้เรียนเก่ียวกับสารและการเปลี่ยนแปลงสารในชีวิตประจาวัน เร่ือง การ
เกิดกล่ินของผลไม้ ประกอบกับผู้จัดทาโครงงานมีความต้องการท่ีจะเปรียบเทียบปริมาณ
แอลกอฮอล์ในผลไม้และความพึงพอใจของคนในชุมชนต่อรสชาติของน้าผลไม้ที่เกิดจากการ
หมกั

จดุ มุ่งหมายของการศึกษาคน้ คว้า

๑. เพอ่ื เปรยี บเทยี บปริมาณการเกิดแอลกอฮอรใ์ นผลไม้สามชนิด
๒. เพื่อศึกษาความพงึ พอใจต่อรสชาติของไวน์ผลไม้ทง้ั สามชนดิ

สมมติฐานของการศกึ ษาค้นควา้

ผลไม้ตา่ งชนดิ กนั มปี รมิ าณแอลกอฮอล์แตกต่างกนั

ตวั แปรที่เกี่ยวข้อง

๑. ตัวตวั แปรต้น คอื ชนิดของผลไม้
๒. ตัวแปรตาม คอื ปรมิ าณแอลกอฮอล์ และรสชาติ
๓. ตัวแปรควบคมุ คือ ถังหมกั น้าหนักผลไม้ ปริมาณนา้ ตาล ปริมาณยสี ต์

ปริมาณน้าเปล่า ระยะเวลาในการหมกั

ขอบเขตในการศึกษา
ในการทาโครงงานทดลองในคร้ังนี้ ขอบเขตท่ีใช้ในการศึกษาคือลูกเม่า สัปปะรด องุ่น

และกลุ่มตัวอย่างท่ีศึกษาคือคณะครูโรงเรียนชุมชนบ้านโนนสมบูรณ์(ธนาคารกรุงเทพ๒๙)
จานวน ๓๐ คน



สถานที่ในการทดลอง คอื โรงเรียนชุมชนบา้ นโนนสมบูรณ์(ธนาคารกรงุ เทพ๒๙)
สานักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาบงึ กาฬ

นิยามเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร
ไวน์ คือ เครอ่ื งดมื่ ท่มี แี อลกอฮอลท์ ่ไี ด้จากการหมักนา้ ผลไม้ในทอ้ งถ่นิ กับเชอ้ื ยสี ต์

อาจจะมชี ื่อแตกต่างกนั ไปตามวัตถุดบิ ท่นี ามาใช้ทา เชน่ ถ้าเอาน้าองุน่ มาหมกั กับเช้อื ยีสต์ จะ
เรียกว่าไวนอ์ งุ่น หากเอาลกู เม่ามาหลกั กบั เช้อื ยสี ต์ เราก็เรียกว่า ไวนล์ ูกเม่า หรืออาจเอาน้า
สัปปะรดมาหมกั กับเช้อื ยีสตเ์ รากเ็ รียกวา่ ไวนส์ ปั ปะรดไดเ้ ชน่ กนั

ความพึงพอใจ คือ ความชอบในรสชาตขิ องน้าหมักผลไมก้ บั เช้ือยสี ตท์ ี่ทาการทดลอง

บทที่ ๒
เอกสารทเี่ ก่ียวขอ้ ง

ในการจดั ทาโครงงานวทิ ยาศาสตรป์ ระเภททดลอง เรอ่ื ง การเปรยี บเทียบปรมิ าณ
แอลกอฮอลใ์ นผลไม้ มวี ตั ถุประสงคใ์ นการทาโครงงานวิทยาศาสตรป์ ระเภททดลอง เพอ่ื
เปรยี บเทียบปรมิ าณการเกิดแอลกอฮอร์ในผลไม้ ๓ ชนิดและเพือ่ ศกึ ษาความพงึ พอใจต่อ
รสชาตขิ องไวน์ผลไม้ทงั้ สามชนดิ มีเอกสารที่เกีย่ วขอ้ งดงั นี้

1. ไวน์ คือ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลท์ ี่ไดจ้ ากการหมกั น้าผลไม้ในทอ้ งถน่ิ กบั เช้ือยสี ต์
อาจจะมชี ือ่ แตกตา่ งกันไปตามวตั ถุดบิ ทน่ี ามาใช้ทา เชน่ ถ้าเอาน้าองุ่นมาหมักกับเช้อื ยสี ต์ จะ
เรยี กว่าไวน์อง่นุ หากเอาลกู เมา่ มาหลกั กบั เชอื้ ยีสต์ เราก็เรียกว่า ไวนล์ กู เม่า หรอื อาจเอาน้า
สัปปะรดมาหมกั กับเช้ือยสี ต์เราก็เรียกวา่ ไวน์สปั ปะรดได้เชน่ กนั

2. ความพึงพอใจ คอื ความชอบในรสชาตขิ องนา้ หมักผลไม้กบั เช้อื ยสี ตท์ ี่ทาการ
ทดลอง

3. ผลไม้ คือ ผลไม้ ๓ ชนิดไดแ้ กล่ กู เมา่ สปั ปะรด และอง่นุ
3.1 มะเมา่ หรอื หมากเม่า
ช่อื วทิ ยาศาสตร์: Antidesma thwaitesianum ทางพษิ ณุโลก เรยี กเมา่

หลวง ระนองเรียกมดั เซ เปน็ ไมย้ นื ต้นในสกุล Antidesma ใบเดีย่ ว สีเขยี วเป็นมนั โคนใบเรยี ว
มน ดอกออกเป็นชอ่ ตามซอกใบและปลายกิ่ง ดอกแยกเพศแยกต้น ผลกลม ออกรวมกนั เปน็
พวง ผลออ่ นสีเขยี ว เมื่อสุกเปน็ สีแดง สุกเต็มที่เปลย่ี นเป็นสดี า พบมากทางภาคตะวนั ออกเฉยี ง
เหนือของประเทศไทย

การใชป้ ระโยชน์ผลรับประทานได้ มีรสเปร้ยี ว โดยรบั ประทานเปน็ ผลไมส้ ด
หรือแปรรปู เปน็ น้าผลไม้ ไวน์ แยม น้าส้มสายชู นอกจากน้ียังมสี รรพคุณเป็นยาระบาย ช่วย
บารงุ สายตา ใบอังไฟแล้วประคบ แกอ้ าการฟกช้า และมสี ารอาหารจานวนมาก เชน่ วิตามิน
ซี วติ ามนิ อี สารตา้ นอนมุ ลู อสิ ระ

3.2 สปั ปะรด
ช่อื ทางวิทยาศาสตร:์ Ananas comosus เปน็ พืชล้มลุกชนดิ หนงึ่ ทมี่ ตี ้นกาเนดิ มา

จากบรเิ วณทวปี อเมริกาใต้ ลาตน้ มขี นาดสงู ประมาณ 80-100 เซนตเิ มตร การปลูกสามารถ
ปลกู ได้งา่ ยโดยการฝงั กลบหนอ่ หรือสว่ นยอดของผลทเี่ รียกวา่ จุก เปลอื กของผลสบั ปะรด
ภายนอกมีลักษณะคล้ายตาล้อมรอบผลแต่ละท้องถิน่ เรียกสับปะรดแตกต่างกันออกไปเชน่ [1]
ภาคกลาง เรยี กว่า "สับปะรด"ภาคอสี าน เรยี กว่า "บักนดั " ("หมากนัด")ภาคเหนือ เรยี กว่า "มะ
นัด, มะขะนดั , บ่อนดั " ภาคใต้ เรยี กว่า "ย่านัด, หย่านัด, ย่านนดั , ขนุนทอง, มะลิ"
รปู ลกั ษณะ ไม้ลม้ ลกุ อายหุ ลายปี สูง 90-100 ซม. มีลาตน้ อยู่ใตด้ นิ ใบเด่ียวเรียงสลับ ซอ้ นกนั ถ่ี
มากรอบตน้ กวา้ ง 6.5 ซม. ยาวได้ถึง 1 เมตร ไม่มีก้านใบ ดอกช่อออกจากกลางต้น มีดอกยอ่ ย
จานวนมาก ผลเป็นผลรวม รูปทรงกระบอก มีใบเปน็ กระจุกท่ีปลาย

-๔-
สับปะรดเปน็ พืชใบเล้ยี งเด่ียว สามารถทนตอ่ สภาพแวดลอ้ มตา่ ง ๆ ได้ดี เป็นพืช
เศรษฐกิจทีส่ าคัญ เมือ่ เจริญเป็นผลแลว้ จะเจรญิ ตอ่ ไปโดยตาท่ีลาตน้ จะเตบิ โตเปน็ ต้นใหม่
ไดอ้ ีก และสามารถดัดแปลงเป็นไมป้ ระดบั ได้อีกดว้ ย
สับปะรดแบ่งออกตามลกั ษณะความเปน็ อย่ไู ด้ 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือพวกท่มี ีระบบราก
หาอาหารอยู่ในดิน หรือเรียกว่าไม้ดิน, พวกอาศัยอยู่ตามคาคบไมห้ รอื ลาต้นไม้ใหญ่ ไดแ้ ก่ ไม้
อากาศต่าง ๆ ท่ไี มแ่ ย่งอาหารจากต้นไมท้ ี่มนั เกาะอาศยั อยู่ พวกนีส้ ่วนใหญ่จะเป็นไมป้ ระดบั ,
และพวกที่เจริญเติบโตบนผาหนิ หรอื โขดหินส่วนสับปะรดทเี่ ราใชบ้ ริโภคจดั เป็นไมด้ นิ แต่ยังมี
ลักษณะบางประการของไมอ้ ากาศเอาไว้ คอื สามารถเกบ็ นา้ ไว้ตามซอกใบไดเ้ ลก็ นอ้ ยมเี ซลล์
พิเศษสาหรับเก็บนา้ เอาไว้ในใบ ทาให้ทนทานในชว่ งแล้งได้
สรรพคณุ ทางสารเคมี มเี อนไซม์ย่อยโปรตนี ช่อื บรอมีเลน (bromelain) ช่วยย่อย
โปรตีนไมใ่ หต้ กคา้ งในลาไส้ และ มเี กลือแร่ วติ ามินซีจานวนมาก และนาไปใช้ในอตุ สาหกรรม
การแพทย์เพื่อรักษาอาการอักเสบของเนื้อเยื่อ และนาไปใช้ในการผลติ เบยี ร์เพอ่ื ป้องกนั การ
ตกตะกอนทาให้เบยี รไ์ มข่ ุ่น
สรรพคุณทางสมนุ ไพร ชว่ ยบรรเทาอาการแผลเป็นหนอง ช่วยขบั ปสั สาวะ แก้ร้อน
กระสบั กระสา่ ย กระหายน้า แกอ้ าการบวมน้า ปสั สาวะไม่ออก บรรเทาอาการโรคบิด
ชว่ ยยอ่ ยอาหารพวกโปรตีน แก้ทอ้ งผกู เปน็ ยาแก้โรคนิว่ แก้สน้ เทา้ แตก ส่วนของราก
สับปะรด นามาใช้เปน็ ยาแกก้ ระษยั บารงุ ไต ชว่ ยในการฆา่ ตวั ออ่ นของหนอนแมลงวันได้
3.3 อง่นุ
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Vitis vinifera L. ชื่อวงศ์ : LEGUMINOSAE เป็นพืชยนื ตน้ มี
ลกั ษณะเปน็ ไม้พมุ่ เล้ือย มีลักษณะเนอื้ แขง็ และมลี าตน้ ก่งิ ถาวรอายเุ กนิ 1 ฤดู ถ้าปล่อยให้
เจรญิ เติบโตตามธรรมชาตจิ ะเลอื้ ยเกาะกิ่งไม้ ใบกลมขอบหยกั เวา้ ลึก 5 พู โคนใบเวา้ เปน็ รูป
หัวใจ ดอกออกเปน็ ช่อแยกแขนง ดอกย่อยขนาดเล็กสเี ขียวมีหมวก จะหลุดออกเม่ือดอกบาน
กลบี ดอกเมอื่ บานสีขาว โคนเชอ่ื มติดกนั ปลายแยก 5 กลบี เป็นผลเดยี่ วทอ่ี อกเป็นพวง (เปน็
ผลเดีย่ วที่เกิดจากดอกชอ่ แต่ดอกไม่หลอมรวมกัน) ผลยอ่ ยรูปกลมรแี ละฉา่ นา้ มีผวิ นวลเกาะ
และรสหวาน มีสเี ขียว, มว่ งแดงและมว่ งดาแลว้ แต่พนั ธ์ุ ในผลมีเมลด็ ประมาณ 1 - 4 เมลด็
สรรพคณุ ทางยาและคณุ ค่าทางอาหาร องนุ่ มีสารอาหารท่ีสาคญั คือ น้าตาล และ
สารอาหารจาพวกกรดอนิ ทรยี ์ เชน่ น้าตาลกลโู คส, นา้ ตาลซโู คส, วิตามนิ ซี, เหล็กและ
แคลเซยี ม องุ่นยงั สามารถนาไปทาเป็นเหล้าองนุ่ ซึ่งเป็นเหลา้ บารงุ ใชเ้ ปน็ ยา การรบั ประทาน
องนุ่ เป็นประจามสี ่วนช่วยในการบารุงสมอง, บารุงหวั ใจ, แกก้ ระหาย, ขับปัสสาวะและบารงุ
กาลงั คนที่รา่ งกายผอมแห้ง แก่กอ่ นวัยและไมม่ ีเรี่ยวแรง หากรบั ประทานองนุ่ เปน็ ประจาจะ
สามารถช่วยเสรมิ ทาใหร้ า่ งกายแข็งแรงข้ึนได้ ส่วนเครอื และรากมฤี ทธิใ์ นการขบั ลม, ขับ
ปสั สาวะ, รกั ษาโรคไขขอ้ อกั เสบ, ปวดเอน็ และปวดกระดูก อีกทง้ั ยังมฤี ทธ์ิระงบั ประสาท,
แกป้ วดและแก้อาเจียนอกี ดว้ ย

บทท่ี ๓
วิธีดาเนนิ การ

วิธดี าเนนิ การ

๑.๑ วสั ดอุ ุปกรณ์
๑. ผลไม้สามชนิด คอื องนุ่ ลกู เม่า สปั ปะรด
๒. นา้ ตาล
๓. ยสี ต์
๔. ถงั หมัก
๕. หมอ้
๖. เตาแกส๊
๗. น้าเปล่า

๑.๒ วธิ ดี าเนินการทดลอง

1. การทานา้ หมักผลไม้
วธิ ที านา้ หมักลกู เมา่ คือ
1.น้าน้าเปล่า 1000 ลติ ร เทใสห่ ม้อไปต้งั ไปไฟเทน้าตาลลงไปคนใหล้ ะลายยกลงตง้ั

ไวใ้ ห้เยน็
2.นาลูกเมา่ 1 กโิ ลกรัมไปลา้ งให้สะอาดผงึ่ ให้แห้งเทใสข่ วดหมกั ที่เตรยี มไว้
3.นา้ น้าเช่ือมท่ีเตรียมไว้มาเทลงในถังหมกั ลูกเมา่ ปดิ ผา

วธิ ีทานา้ หมักสัปปะรดก็ทาเชน่ กัน คอื
1.นา้ นา้ เปล่า 1000 ลติ ร เทใสห่ มอ้ ไปตัง้ ไปไฟเทน้าตาลลงไปคนให้ละลายยกลงต้ัง
ไว้ให้เย็น
2.นาสปั ปะรดปลอกเปลือกล้างใหส้ ะอาดนามา 1 กิดลกรัม ผงึ่ ให้แหง้ เทใสข่ วดหมกั
ทเ่ี ตรียมไว้
3.น้าน้าเช่ือมท่ีเตรยี มไวม้ าเทลงในถังหมกั สัปปะรด ปดิ ผา

-๖-

วธิ ีทาน้าหมักองุน่ กเ็ ชน่ กนั คือ
1.น้าน้าเปล่า 1000 ลิตร เทใสห่ ม้อไปตงั้ ไปไฟเทน้าตาลลงไปคนใหล้ ะลายยกลงต้ังไว้
ใหเ้ ยน็
2.นาองุ่น 1 กิโลกรมั ไปล้างใหส้ ะอาดผ่ึงให้แห้งเทใสข่ วดหมกั
3.น้าน้าเชื่อมทเี่ ตรียมไว้มาเทลงในถงั หมักองนุ่ ปดิ ผา

2. เมอื่ เตรียมนา้ หมกั ผลไม้ทั้งสามชนดิ เรยี บร้อยแล้ว ยกมาตงั้ ไว้ ณ ห้องทดลอง จากนน้ั เติม
ยีสต์ถงั ละ 0.5 กรมั พรอ้ มกัน เขย่าให้เขา้ กนั ปิดฝาถงั ให้สนทิ ทงั้ ไว้ 1 สัปดาห์ สาเหตทุ ่ี
ทาเช่นนี้เพราะเราต้องการทจี่ ะศึกษาปริมาณการเกิดแอลกอฮอร์ในผลไม้3ชนดิ บนั ทกึ ผล
การทดลอง

3. นาไวน์ผลไม้ท้งั สามชนดิ ให้กลุ่มตัวอย่างชิมจานวน ๓๐ คน เพอ่ื สอบถามบความพึงพอใจ
ต่อการชมิ ไวนผ์ ลไมท้ ้ังสามชนิด บันทึกผลการทดลอง

บทที่ ๔

ผลการดาเนนิ การ

จากการศกึ ษาโครงงานวทิ ยาศาสตรป์ ระเภททดลอง เรื่อง การเปรยี บเทยี บปริมาณ

แอลกอฮอลใ์ นผลไม้ ได้ผลการทดลองดงั น้ี

ตารางท่ี 4.1 การศกึ ษาผลการสงั เกตลกั ษณะทางกายภาพในน้าผลไม้ ๓ ชนิด

ภาชนะ/วตั ถุดิบทใี่ ช้ ผลการสงั เกตลักษณะทางกายภาพ
วนั ท่ี ๑ วนั ที่ ๔ วันที่ ๗

สีแดงออ่ น สแี ดงเขม้ สีแดงเข้ม

ถังหมกั ท่ี ๑ ลูกเม่า มีกลิน่ ลูกเม่า มีกลน่ิ ลูกเมา่ มีกลิ่นลกู เม่า

ไม่มีฟองอากาศ มีฟองอากาศเล็กนอ้ ย มีฟองอากาศเล็กมาก

สีเหลอื งออ่ น มีกล่ิน สีเหลืองเขม้ สีเหลอื งเข้ม

ถังหมักที่ ๒ สบั ปะรด สับปะรด ไม่มี มีกลน่ิ สบั ปะรด มี มกี ล่นิ สบั ปะรด มี

ฟองอากาศ ฟองอากาศเลก็ นอ้ ย ฟองอากาศเลก็ มาก

ถงั หมกั ที่ ๓ องนุ่ ไม่มีสี มีกลน่ิ องุน่ ไม่มี สชี มพูออ่ น สชี มพูออ่ น
ฟองอากาศ มกี ลน่ิ องนุ่ มีกลนิ่ องนุ่
มีฟองอากาศเลก็ น้อย มฟี องอากาศเลก็ มาก

จากการทดลอง พบวา่ หลังหมักไวน์ผลไม้ ๑ สัปดาห์ ถงั หมกั ท่ี ๑ ไวนล์ ูกเม่า
มีปริมาณแอลกอฮอร์มากทีส่ ุด สังเกตจากการเปิดจุกขวดเสยี งจะดังกว่าถังท่ี ๒ และ ๓
เรียงตามลาดบั เมอ่ื นาน้าหมักไวน์ผลไมไ้ ปใหค้ ณุ ครูในโรงเรยี นชมิ จานวน ๓๐ คนพบว่า
๑๘ คนชอบรสชาติไวน์ลูกเมา่ ๑๐ คน ชอบไวน์สัปปะรด และอีก ๒ คนชอบไวนอ์ งนุ่

ปรมิ าณการเกิดแอลกอฮอรใ์ นผลไม้ ๓ ชนดิ มีปรมิ าณแตกตา่ งกนั ทงั้ นจี้ ะเหน็
วา่ ผลไมท้ มี่ ีรสชาตเิ ปรย้ี วจะมอี ตั ราการเกิดปริมาณการเกดิ แอลกอฮอร์สูง สาหรบั ความพงึ
พอใจของคณะครใู นโรงเรียนชมุ ชนบ้านโนนสมบูรณ์ธนาคารกรุงเทพ ๒๙ มีความพงึ พอใจต่อ
รสชาตขิ องไวนล์ ูกเมา่ มากท่สี ดุ รองลงมาคือไวน์สัปปะรดและ ไวนอ์ งุ่นตามลาดับ จะเหน็ ไดว้ า่
ความพงึ พอใจของไวนท์ ้ังสามชนิดทั้งน้ีข้ึนอยูก่ ับความชอบของแต่ละบุคคลและราคาของผลไม้
ที่นามาจัดทาในการทดลองนไ้ี วน์ ในชว่ งนลี้ กู เมา่ จะหาได้งา่ ยในท้องถ่นิ ราคาถกู ส่วนสปั ปะรด
และอง่นุ ต้องเสียคา่ ใช้จา่ ยสงู ขนึ้ ในการจัดทาประกอบกบั รสชาตไิ ม่เป็นที่ตอ้ งการของชมุ ชนจงึ
ทาใหไ้ ม่เปน็ ทนี่ ยิ มในการทาไวน์

บทที่ ๕
สรุปผลการดาเนินการ/อภปิ รายผลการดาเนนิ การ

โครงงานวิทยาศาสตรป์ ระเภททดลอง เรอื่ ง การเปรยี บเทียบปริมาณแอลกอฮอล์
ในผลไม้ มวี ัตถุประสงค์ในการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เพ่ือเปรยี บเทยี บ
ปรมิ าณการเกดิ แอลกอฮอร์ในผลไม้ ๓ ชนดิ และเพื่อศกึ ษาความพงึ พอใจตอ่ รสชาตขิ องไวน์
ผลไม้ท้ังสามชนดิ

จากการทดลองสรปุ ได้วา่ ไวน์ลกู เมา่ มีปริมาณแอลกอฮอร์มากท่ีสดุ สงั เกตจาก
การเปดิ จุกขวดเสยี งจะดังกวา่ ถังท่ี ๒ และ ๓ เรยี งตามลาดับ เมื่อนาน้าหมกั ไวน์ผลไม้ไปให้
คณุ ครูในโรงเรียนชมิ จานวน ๓๐ คนพบว่า ๑๘ คนชอบรสชาติไวน์ลกู เม่า ๑๐ คน ชอบ
ไวน์สปั ปะรด และอกี ๒ คนชอบไวนอ์ งุ่น

ปรมิ าณการเกดิ แอลกอฮอร์ในผลไม้ ๓ ชนดิ มปี รมิ าณแตกตา่ งกัน ท้ังนี้จะเหน็ วา่
ผลไมท้ ี่มรี สชาติเปรย้ี วจะมีอัตราการเกิดปริมาณการเกดิ แอลกอฮอร์สงู สาหรับความพึงพอใจ
ของคณะครใู นโรงเรยี นชมุ ชนบา้ นโนนสมบูรณ์ธนาคารกรงุ เทพ ๒๙ มีความพึงพอใจต่อ
รสชาตขิ องไวนล์ ูกเมา่ มากทีส่ ดุ รองลงมาคอื ไวนส์ ัปปะรดและ ไวนอ์ งนุ่ ตามลาดับ จะเห็นไดว้ า่
ความพงึ พอใจของไวน์ท้ังสามชนดิ ทง้ั นข้ี ้ึนอยู่กับความชอบของแตล่ ะบคุ คลและราคาของผลไม้
ทนี่ ามาจัดทาในการทดลองน้ีไวน์ ในช่วงนล้ี ูกเมา่ จะหาได้ง่ายในทอ้ งถ่นิ ราคาถูก ส่วนสัปปะรด
และองุน่ ต้องเสยี คา่ ใชจ้ า่ ยสูงข้ึนในการจดั ทาประกอบกับรสชาตไิ มเ่ ป็นที่ตอ้ งการของชมุ ชนจงึ
ทาใหไ้ ม่เปน็ ทนี่ ยิ มในการทาไวน์

ข้อเสนอแนะ
จากการทดลองพวกเราอยากต่อยอดการพัฒนาสตู รทเี่ หมาะสมในการทาไวนล์ ูกเม่าใน
ปริมาณท่มี ากขน้ึ เพ่ือจาหนา่ ยและสรา้ งรายไดร้ ะหวา่ งเรียน

บรรณานุกรม

กชกร ธานีวัฒน์. (๒๕๔๗, เมษายน). “จับตาพลังงานหมุนเวยี นปี ๔๗ ไทยขึ้นแท่น
ผู้นาอาเซียน,” รักษพ์ ลงั งาน. ๒(๖) : ๗-๘.

วฒั นา ถาวร. (๒๕๔๓). โรงต้นกาลงั . พมิ พค์ ร้ังที่ ๔. กรงุ เทพฯ : สมาคมส่งเสริม
เทคโนโลยี (ไทย-ญป่ี ่นุ ).

หนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ สถาบันส่งเสริมการสอน
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

แอลกอฮอลใ์ นผลไม้ (๒๕๔๖). www.google.com สบื คน้ เมอื่ วนั ที่ ๓๐ ตลุ าคม
๒๕๖๐

ภาคผนวก

การเตรยี มการนาเสนอ
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง

เรื่อง
การเปรียบเทยี บปริมาณแอลกอฮอลใ์ นผลไม้






Click to View FlipBook Version