ชื่อพื้นเมือง : ฝาง (ทั่วไป)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้ต้นขนาดเล็ก (ST) สูงประมาณ 3-10 เมตร เมื่อโตเต็มที่มักจะทอดไปพาดต้นไม้อื่น ตามลำดับและกิ่งมีหนามแข็ง ซึ่งโคนหนามมีลักษณะพองคล้ายกับฐานนม
ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ ใบย่อยจำนวนมากลักษณะใบรูปขอบขนานปลายใบมนเว้าเล็กน้อย โคนใบเบี้ยว ขอบใบเรียบ ใบมีสีเขียวเข้ม มีลักษณะคล้ายใบหางนกยูง
ดอก ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่งตรงส่วนยอดของต้น ดอกมีสีเหลืองตรงกลางดอกเป็นสีแดง กลีบดอก 5 กลีบ
ผล เป็นฝักรูปสี่เหลี่ยมแบน กว้าง 2 ซม. ยาวประมาณ 7-12 ซม. แข็ง เมื่อแก่สีน้ำตาลเข้ม และที่ผิวฝักจะมีลายจุด ๆแต้มอยู่ ปลายฝักเป็นจะงอย มีเมล็ดภายใน 2-4 เมล็ด ฝักของฝางนี้มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือชนิดแก่นสีเหลือง เรียกว่า “ฝางส้ม” และแก่นสีแดง เรียกว่า “ฝางเสน”
เมล็ด มีขนาดกลมเล็ก และแข็ง สีเหลือง จำนวนมาก
นิเวศวิทยา
เป็นไม้กลางแจ้ง ที่เกิดขึ้นเป็นกลุ่มตามเขาหินปูนและชายป่าดิบแล้งทั่วไป
การปลูกและขยายพันธุ์
เจริญเติบโตได้ดีในดินที่ร่วนซุย สามารถให้ร่มเงาได้ ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดหรือตอนกิ่ง
ประโยชน์
รสและสรรพคุณในตำรายา
แก่นหรือเนื้อไม้ รสขมฝาด ต้มเอาน้ำดื่ม บำรุงโลหิต แก้ปอดพิการ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ท้องร่วง แก้ธาตุพิการ แก้ริดสีดวงทวาร แก้กำเดา แก้เสมหะ ฝนทาแก้โรคผิวหนังบางชนิด และฆ่าเชื้อโรคได้
วิธีและปริมาณที่ใช้
แก้ร้อนในกระหายน้ำ บำรุงโลหิต โดยใช้แก่นที่ตากแห้งแล้ว 10-20 กรัม ต้มในน้ำเดือด 10-15 นาที กรองเอาน้ำดื่มวันละ 3 เวลา เป็นประจำ
วิธีการต้มน้ำดื่มสมุนไพรฝาง
ขั้นตอน นำฝางไม้ตากแห้งห่อใส่ผ้าขาวบางแล้วมาใส่น้ำต้มเดือดประมาณ ๑๐-๑๕ นาที แล้วเติมน้ำตาลและเกลือ ตามใจชอบ ทิ้งไว้ประมาณ ๑๐นาทีแล้วถึงจะปิดเตาแก๊ส จะทานแบบอุ่นหรือเติมน้ำแข็งก็ได้
ดาวน์โหลดแผ่นพับ คลิกที่นี่