คำขวัญประจำจังหวัดพิจิตร
ถิ่นประสูติพระเจ้าเสือ แข่งเรือยาวประเพณี
พระเครื่องดีหลวงพ่อเงิน เพลิดเพลินบึงสีไฟ
ศูนย์รวมใจหลวงพ่อเพชร รสเด็ดส้มท่าข่อย
ข้าวเจ้าอร่อยลือเลื่อง ตำนานเมืองชาละวัน
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว
วัดเขารูปช้าง
โบราณสถานของวัดเขารูปช้างที่มองเห็นเด่นเป็นสง่าคือ เจดีย์แบบลังกาซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันมองดูคล้ายช้าง แต่เดิมเป็นเจดีย์เก่ามาก่อน และทางวัดได้ทำการปฏิสังขรณ์ใหม่ได้ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์
มีรั้วรอบองค์เจดีย์ สำหรับลานกว้างบนยอดเขา ทางวัดได้สร้างวิหารใหญ่ขึ้นหลังหนึ่งและมีเจดีย์เก่าอยู่องค์หนึ่งเป็นเจดีย์แบบลังกาทรงเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยา
รูปปั้นพญาชาละวัน
รูปปั้นพญาชาละวัน เป็นรูปปั้นจระเข้ที่มีความยาวถึง
38 เมตร กว้าง 6 เมตร ปากยาว 4.5
เมตร ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของบึงสีไฟ มีลักษณะ เด่นและงดงามมาก ภายในตัวจระเข้นี้ยังมีห้องประชุมขนาด
25-30 ที่นั่งอีกด้วย สถานแสดงพันธุ์ปลาเฉลิมพระเกียรติ
สร้างขึ้นในบริเวณด้านใน ของบึงสีไฟ ลักษณะอาคารเป็นรูป ดาวเก้าแฉกยื่นลงในบึงสีไฟ
ภายในประกอบด้วยตู้แสดงพันธ์ปลาแปลก ๆ มากกว่า 20 ชนิด และมีการสับเปลี่ยนชนิดของปลาเป็นประจำ
นอกจากนั้นบริเวณส่วนกลางของอาคารยังทำเป็นช่องสำหรับชมปลา ใน บึงสีไฟซึ่งมีปลาชนิดต่าง
ๆ อยู่
เป็น จำนวนมากคอยกินอาหารที่นักท่องเที่ยวโปรยให้
เป็น จำนวนมากคอยกินอาหารที่นักท่องเที่ยวโปรยให้
วัดท่าหลวง
เป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพิจิตร
อยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่านฝั่งตะวันตก ใกล้ศาลากลางจังหวัด วัดนี้สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ.
2388 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อเพชร
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสมัยเชียงแสน หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ มีพุทธลักษณะงดงามมาก
มีหน้าตักกว้าง 1.40 เมตร สูง 1.60 เมตร
เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่เมืองพิจิตร ประวัติมีอยู่ว่า พระพิจิตร ซึ่งเป็นเจ้าเมืองอยากได้พระประธานมาประดิษฐานที่จังหวัดพิจิตรในโอกาสที่ทัพกรุงศรีอยุธยาได้เดินทางผ่านเมืองพิจิตรเพื่อไปปราบขบถจอมทองเมืองเชียงใหม่ พระพิจิตรจึงได้ขอร้องแม่ทัพว่า เมื่อปราบขบถเสร็จแล้วให้หาพระมาฝาก ดังนั้น เมื่อเสร็จศึก แม่ทัพนั้นจึงได้อาราธนาพระพุทธรูป หลวงพ่อเพชรลงแพลูกบวบล่องมาทางแม่น้ำปิง โดยฝากเจ้าเมืองกำแพงเพชรไว้ ต่อมาจึงได้อาราธนาหลวงพ่อเพชรมาประดิษฐานไว้ ณ อุโบสถวัดนครชุมก่อน แล้วจึงย้ายมาประดิษฐานที่พระอุโบสถวัดท่าหลวง อำเภอเมืองพิจิตร จนถึงปัจจุบัน พระอุโบสถจะเปิดให้ประชาชนเข้านมัสการหลวงพ่อเพชรได้ทุกวัน
เที่ยวชม
ไร่องุ่นดงเจริญ จังหวัดพิจิตร
ไร่องุ่นดงเจริญ
(ไร่องุ่นขจรฟาร์ม) ตั้งอยู่ที่ ถนนตลิ่งชัน-บึงสามพัน อยู่ห่างจากขจรฟาร์ม
(ฟาร์มนกกระจอกเทศ) ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นไร่องุ่นพันธุ์ดี
ในพื้นที่ 200 ไร่ พันธุ์ที่มีชื่อเสียงคือพันธ์แบล็คควีน
เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทิวทัศน์ที่สวยงามของไร่องุ่น
ได้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกองุ่นทั้งสำหรับทำไวน์ องุ่นทานเป็นผลสดๆ ชมโรงบ่มไวน์
ที่ไร่องุ่นนี้ จะออกผลให้ซื้อทานได้ในช่วง มี,ค.-เม.ย., ก.ค-ส.ค. และช่วงที่ออกผลดีที่สุดที่สุด คือช่วง พ.ย. –ธ.ค. สอบถามเพิ่มเติม โทร(056) 633-555-6
-การแข่งเรือมักนิยมจัดกันในฤดูน้ำหลาก
ช่วงราวๆ ปลายฤดูฝน แต่บางท้องที่อาจจัดเนื่อง ในเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลออกพรรษาในตอนที่มีการทอดผ้าป่าทอดกฐิน
กิจกรรม / พิธี
การแข่งเรือจังหวัดพิจิตร
แบ่งเรือที่เข้าแข่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. ประเภท ก. เป็นเรือที่มีฝีพายจัดหรือเคยชนะการแข่งขันมาแล้ว และ
2. ประเภท ข. คือเรือน้องใหม่หรือไม่เคยชนะการแข่งขันมาก่อน
แต่ละประเภทก็สามารถแบ่งย่อยอีก
3 ประเภท
- ประเภทเรือใหญ่ กำหนดฝีพายตั้งแต่
41-55 ฝีพาย
- ประเภทเรือกลาง กำหนดฝีพายตั้งแต่
30-40 ฝีพาย
- ประเภทเรือเล็ก กำหนดฝีพายไม่เกิน
29 ฝีพาย
ทั้งนี้เรือที่เข้าแข่งขันมาจากจังหวัดใกล้เคียงด้วย
ก่อนการแข่งขันเรือทุกลำต้องมีการบวงสรวงเซ่นไหว้แม่ย่านาง
ตลอดจนการเข้าทรงแม่ยางนางเพื่อทราบความต้องการ ทั้งนี้
แม่ย่านางเรือแต่ละลำชอบของไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีการถือเคล็ดกันต่างๆ เช่น
เรือบางลำไม่ให้ผู้หญิงแต่ต้องเลย ยิ่งมีการแข่งขันเดิมพันด้วยเงินจำนวนสูงๆ
ด้วยแล้วก็ยิ่งมีการระมัดระวังมากขึ้น
ก่อนการแข่งขันก็ต้องมีการตรวจตราดูเรืออย่างเข้มงวด
เพราะหากมีการแกล้งเอาเข็มมาปักใต้ท้องเรือสักเล่มก็ทำให้เรือแล่นไม่ได้
เรื่องนี้เป็นความเชื่ออย่างหนึ่ง
กติกาในการแข่งขันเรือ
เพื่อให้เกิดความยุติธรรมในการแข่งขัน การแข่งขันกำหนดเป็นสาย ก. และสายข.ก่อนแข่งขันมีการจับสลากเลือกสายน้ำว่าเรือลำใดอยู่ฝั่งตะวันออกหรือฝั่งตะวันตก
กระแสน้ำช่วยในการแข่งขันได้อย่างมาก ถ้ากระแสน้ำแรงทำให้เรือวิ่งได้ดี
เรือต้องวิ่งในสายน้ำของตนถ้าวิ่งผิดสายน้ำจะถูกปรับแพ้ทันที แต่ละคู่จะแข่งกัน 2
ครั้ง โดยกลับสายน้ำกัน หากลำแรกอยู่ฝั่งตะวันออกในการแข่งครั้งแรก
ครั้งสองจะเป็นฝ่ายอยู่ฝั่งตะวันตก ซึ่งถ้าชนะทั้ง 2 ครั้ง
ก็ถือว่าชนะ หากเสมอกันก็ต้องจับสลากสายน้ำกันใหม่ว่าใครอยู่ฝั่งใด
และแข่งแพ้ชนะกันอีกครั้งหนึ่ง
ฝีพายแต่ละคนมีส่วนช่วยให้เรือประสบชัยชนะทั้งสิ้น
เพราะใครพายผิดจังหวะก็จะมีผลต่อฝีพายอื่นๆ
โดยเฉพาะฝีพายเรือที่จะคัดหัวเรือให้ตรงหลัก หากมีการติดสินบนกลั่นแกล้งกันแล้ว
ก็ทำให้แพ้ได้ง่าย
ในปัจจุบัน การแข่งเรือไม่เพียงแต่เป็นงานระดับจังหวัดเท่านั้น
แต่ได้พัฒนาไปสู่นานาชาติและเป็นที่ยอมรับกันไปทั่วโลก
แผนที่จังหวัดพิจิตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น