วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ดอกโบตั๋น


ดอกโบตั๋น





โบตั๋น
ชื่อวิทยาศาสตร์ P. suffruticosa

ชื่อวงศ์ 
 Paeoniaceae 

ชื่อสามัญ 
 Paeonia 
ชื่อ "โบตั๋น" ในภาษาไทย มาจากชื่อดอกไม้นี้ในภาษาญี่ปุ่นว่า "โบะตัง" (ボタン( botan )?) แต่บางคนก็ว่า มาจากชื่อในภาษาจีนว่า "หมู่ตัน" (牡丹 mǔ dān ?)
การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ดดอกโบตั๋นต้องการวงจรในการงอกตามธรรมชาติ คือ อบอุ่น – เย็น – อบอุ่น
1.แช่เมล็ดในน้ำเป็นเวลา 1 ชั่วโมง แล้วนำขึ้นมาผึ่งไว้ 5 นาที
2.นำเมล็ดโบตั๋น ใส่ในถุงซิปล็อค ที่บรรจุพีทมอส หรือ ทรายหยาบชื้น หรือ อาจใส่ในกล่องพลาสติกที่มีฝาปิด วางไว้ในที่มีแสงน้อย อุณหภูมิอบอุ่นประมาณ 20 องศาเซลเซียส เช่น ในตู้กับข้าว เป็นต้น จากนั้นคอยเช็คความชื้นเป็นระยะ เมื่อเห็นว่าเกือบแห้งแล้ว ให้สเปรย์น้ำเพิ่ม คอยดูแลขั้นตอนนี้ไปจนกว่ารากสีขาวจะงอกออกมาประมาณ 2 นิ้ว  ขั้นตอนนี้อาจกินเวลาประมาณ 3 เดือน แล้วแต่ความเหมาะสมของสภาพแวดล้อม
3.ย้ายรากที่งอกด้วยความระมัดระวัง นำไปใส่วัสดุปลูกใหม่ เช่น กล่องพลาสติกที่มีฝาปิด ที่บรรจุพีทมอส หรือ ทรายหยาบชื้น ที่มีความลึกเพียงพอให้รากเติบโต กลบหน้าให้พอมิดราก จากนั้นสเปรย์น้ำ แล้วนำไปไว้ในตู้เย็น ที่อูณหภูมิประมาณ 4 องศาเซลเซียสประมาณ 3 – 4 เดือนจากนั้นคอยเช็คความชื้นเป็นระยะ อย่าปล่อยให้แห้งหรือแฉะ เมื่อเห็นว่าเกือบแห้งแล้ว ให้สเปรย์น้ำเพิ่ม
4.หลังจากนั้นให้ย้ายออกมาปลูกภายนอก ที่อุณหภูมิประมาณ 15 – 20 องศาเซลเซียส ช่วงที่เหมาะสมคือฤดูหนาว โดยแยกใส่กระถาง 4 – 6 นิ้ว แล้วแต่ความเหมาะสม ควรเลือกใช้ดินปลูกที่โปร่งระบายน้ำได้ดี วางกระถางไว้ในร่มที่มีแสงสว่าง คอยรดน้ำเมื่อเห็นว่าหน้าดินประมาณ 2 นิ้ว เริ่มแห้ง

5.ค่อยๆทำการเพิ่มแสงสว่าง อย่าให้โดนแดดจัดในทันที แล้วค่อยย้ายปลูกเมื่อเห็นว่าต้นแข็งแรงพอ







ประวัติและข้อมูลทั่วไป 
   ดอกโบตั๋นเป็นดอกไม้ที่นิยมใช้ในงานศิลปะมายาวนาน และหนึ่งในสัญลักษณ์ประจำชาติของจีน โดยถือเป็นดอกไม้แห่งเกียรติยศและความร่ำรวย กับนิยมใช้ในเชิงสัญลักษณ์ในศิลปะจีนอีกด้วย [4] เมื่อ ค.ศ.1903 ราชวงศ์ชิงประกาศให้โบตั๋นเป็นดอกไม้ประจำชาติ ปัจจุบันนี้ไต้หวันใช้ดอกเหมยเป็นดอกไม้ประจำชาติ ขณะที่สาธารณรัฐประชาชนจีนไม่ได้ใช้เป็นดอกไม้ประจำชาติตามกฎหมายอีกแล้ว และต่อมาเมื่อปี 1994 มีการเสนอให้ใช้ดอกโบตั๋นเป็นดอกไม้ประจำชาติอีก โดยการทำประชามติ แต่ก็ไม่ได้รับการยอมรับ กระทั่ง ค.ศ. 2003 มีการเสนอดังกล่าวอีกครึ่งหนึ่ง และยังไม่มีการเลือกใช้ดอกโบตั๋นอีกเช่นกัน
เมืองลั่วหยาง เมืองหลวงเก่าที่มีชื่อเสียงของจีน มีชื่อเสียงในฐานะศูนย์กลางการปลูกดอกโบตั๋นที่สำคัญแห่งหนึ่ง ในประวัติศาสตร์จีน มักจะยกย่องโบตั๋นจากลั่วหยางว่างดงามที่สุดในแผ่นดิน ปัจจุบันยังมีการจัดนิทรรศการและการแสดงดอกโบตั๋นในเมืองนี้ปีละนับสิบๆ ครั้ง
ในประเทศญี่ปุ่น ดอกโบตั๋นชนิด Paeonia lactiflora เรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า ebisugusuri (แปลว่า ยาจากต่างแดน) ตามตำรับยาของญี่ปุ่น ถือว่ารากโบตั๋นใช้รักษาอาการชักได้ นอกจากนี้ยังปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ โบตั๋นชนิด Paeonia suffruticosa ในญี่ปุ่น ถือว่าเป็น ราชาแห่งดอกไม้ และชนิด Paeonia lactiflora ถือว่า เป็น นายกรัฐมนตรีแห่งดอกไม้"[5]
ภาษาญี่ปุ่นเรียกโบตั๋นว่า โบตัน (牡丹) ก่อนสมัยเมจิ เนื้อจากสัตว์สี่เท้าไม่นิยมบริโภคมากนัก เนื่องจากชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนา เมื่อเอ่ยถึงเนื้อสัตว์จึงเลี่ยงมาใช้ชื่อดอกไม้แทน คำว่า โบตัน ถูกใช้เรียกเนื้อหมูป่า มาตั้งแต่ครั้งนั้นจนปัจจุบัน ทั้งนี้ก็เพราะเนื้อหมูป่าเมื่อแล่เป็นชิ้นบางๆ จะคล้ายกับดอกโบตั๋นนั่นเอง ในทำนองเดียวกัน ชาวญี่ปุ่นใช้ดอกซากุระแทนคำเรียกเนื้อม้า
ในรัฐอินเดียนา ของสหรัฐอเมริกา ใช้ดอกโบตั๋นเป็นดอกไม้ประจำรัฐมาตั้งแต่ ค.ศ. 1957 โดยใช้แทนดอก zinnia ที่เคยใช้เป็นดอกไม้ประจำรัฐมาตั้งแต่ ค.ศ.1931
โบตั๋นนิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ เพราะมีดอกสวยงามและใหญ่มาก ทั้งยังมีกลิ่นหอมด้วย

1 ความคิดเห็น:

  1. JSTOR, Limited Company Profile - JD Virtual Tours - JTM Hub
    JSTOR, 통영 출장마사지 Limited is a developer of a bespoke online 이천 출장마사지 betting solutions platform 당진 출장안마 and offers 원주 출장안마 fast withdrawals. We deliver comprehensive and 안양 출장샵 modernised betting

    ตอบลบ